การปรับใช้ระบบ ERP และ MES เพื่อการ Monitoring Track and Trace อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

 

เมื่อกล่าวถึงกระบวนการผลิตในปัจจุบัน ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการจัดการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ระบบการติดตามสินค้า (Monitoring Track and Trace) ถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำให้การผลิตสินค้าสามารถดำเนินการได้อย่างสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพจากการติดตามการทำงานที่เหมาะสม

โดยเฉพาะการบันทึกข้อมูลสินค้าและกระบวนการผลิตลงในระบบออนไลน์ภายใต้ระบบ MES และ ERP ส่งผลให้บุคลากรในโรงงานสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และปรับปรุงการผลิตให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง

Monitoring คืออะไร ทำไมจึงควรมี Monitoring Track and Trace System

Monitoring Track and Trace System คือ ระบบปฏิบัติการโรงงานที่แสดงสถานะและติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าภายในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลและรายละเอียดสินค้า ทั้งสถานะของสินค้า ตำแหน่งที่อยู่ และคุณภาพการผลิตสินค้าในแต่ละขั้นตอน ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การจัดเก็บวัตถุดิบไปจนถึงการจัดส่งสินค้า เพื่อให้พนักงานสามารถบริหารจัดการและตรวจสอบความถูกต้องสินค้าได้อย่างง่ายดายกว่าที่เคย

ความสำคัญของ Monitoring Track and Trace ในอุตสาหกรรมการผลิต

การ Monitoring ใน อุตสาหกรรมการผลิต มีส่วนช่วยพัฒนาการผลิตกระบวนการในขั้นตอนกระบวนการต่าง ๆ และส่งผลดีต่อธุรกิจหลากหลายด้าน ได้แก่

• ติดตามคุณภาพสินค้า ตั้งแต่การค้นหาวัตถุดิบ กระบวนการผลิต และการจัดส่งสินค้า

• ลดความเสี่ยงการเกิดข้อผิดพลาด จากข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบ และกระบวนการผลิต

• สินค้ามีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบสาเหตุและกระบวนการที่เกิดปัญหาได้อย่างรวดเร็วว่ามาจากจุดไหน เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตสินค้าให้อยู่ในกฎระเบียบ ทั้งด้านความปลอดภัยและความสะอาด

• เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ พนักงานสามารถตรวจสอบข้อมูลสินค้าและการทำงานได้อย่างโปร่งใส

• จัดการข้อมูลจำนวนมากได้ดี ผู้ประกอบการสามารถวางแผน ปรับปรุง และกำหนดทิศทางการทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตจำนวนมากที่ต้องใช้ข้อมูลเยอะ

ระบบการทำงานของ Monitoring Track and Trace

การทำงานของระบบ Monitoring Track and Trace ในโรงงานอุตสาหกรรมประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลายส่วน โดยแบ่งเป็น 7 ข้อดังนี้

1. การรวบรวมข้อมูล (Data Compilation) เกี่ยวกับวัตถุดิบและสินค้า เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ

2. การจัดเก็บข้อมูล (Data Storage) เกี่ยวกับสินค้าอย่างครบถ้วน ในฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย

3. การประมวลผลข้อมูล (Data Processing) เพื่อประเมินประสิทธิภาพการผลิต และติดตามคุณภาพสินค้า

4. การติดตามและตรวจสอบ (Tracking and Monitoring) สถานะสินค้าตั้งแต่กระบวนการผลิต ไปจนถึงการจัดส่งสินค้า

5. การจัดการข้อมูลย้อนหลัง (Managing Historical Data) เพื่อตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบและขั้นตอนเมื่อเกิดข้อผิดพลาด

6. การบูรณาการระบบ (System Integration) เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น MES system , ERP System, SCADA และ Shopfloor

7. การวิเคราะห์เชิงลึก (In-depth Analysis) ผ่านการใช้งาน AI และ Machine Learning เพื่อคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

ปัญหาที่พบเมื่อติดตามและตรวจสอบกระบวนการผลิตในปัจจุบัน

การติดตามและตรวจสอบกระบวนการผลิต (Monitoring Track and Trace) ที่ไม่ผ่านระบบปฏิบัติการอันทันสมัย อาจทำให้หลายธุรกิจประสบปัญหาระหว่างกระบวนการผลิตสินค้าหลายส่วน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เช่นปัญหาต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• ข้อมูลล้าหลัง ทำให้การตัดสินใจด้านการกำหนดทิศทางธุรกิจไม่มีประสิทธิภาพมากพอ

• ข้อมูลกระจัดกระจาย ทำให้การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปได้ยากกว่าที่ควร

• ไม่มีการเชื่อมโยงข้อมูล ทำให้ผู้ประกอบการไม่สามารถมองเห็นภาพรวมของการดำเนินงานได้

• การควบคุมคุณภาพทำได้ยาก ทำให้มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดระหว่างกระบวนการผลิตสูง

• ปัญหาด้านทรัพยากร ทำให้วัตถุดิบที่ใช้อาจไม่มีคุณภาพ และถูกใช้งานอย่างสิ้นเปลือง

• วิเคราะห์ข้อมูลได้ยาก ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เพื่อพัฒนาสินค้าได้อย่างคุ้มค่า

ความหมายและความสำคัญของระบบ ERP และ MES ต่อ Monitoring System

ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการติดตั้งระบบปฏิบัติการที่เอื้ออำนวยต่อกระบวนการผลิตโรงงาน และเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ERP และ MES คือระบบการทำงานที่ผู้ประกอบการหลายท่านเลือกใช้เพื่อการบริหารจัดการกระบวนการผลิตและทรัพยากรในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของระบบ ERP ต่อการติดตามกระบวนการผลิต

ERP (Enterprise Resource Planning) ระบบการบริหารทรัพยากรขององค์กร ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตได้ง่ายดายมากขึ้น โดยครอบคลุมตั้งแต่การเก็บรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ การติดตามข้อมูลทางการเงิน กระบวนการผลิตสินค้า การจำหน่ายไปยังผู้บริโภค และการบริการลูกค้า

ซึ่งข้อมูลที่เชื่อมโยงกันเหล่านี้เองที่ทำให้บุคลากรในหน่วยงานต่าง ๆ สามารถดำเนินงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความผิดพลาดด้านข้อมูลสินค้า และเพิ่มประสิทฺภาพการค้นหาข้อบกพร่องของกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำ

ความสำคัญของระบบ MES ต่อการติดตามกระบวนการผลิต

MES (Manufacturing Execution System) ระบบควบคุมประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตสินค้า พร้อมทั้งการจัดเก็บและบันทึกข้อมูลแบบเรียลไทม์ เช่น สถานะของเครื่องจักร การใช้วัตถุดิบ และการควบคุมมาตรฐานสินค้า เพื่อยกระดับระบบโรงงานให้มีคุณภาพ

ระบบ MES จะเข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญในการติดตามสถานะสินค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บุคลากรสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิต ตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการ และตอบสนองต่อปัญหาเหล่านี้ได้อย่างทันท่วงที โดยเข้ามามีส่วนช่วยใน Monitoring System ส่วนต่าง ๆ เช่น

• การวางแผนการผลิต ระบบ ERP มีหน้าที่วางแผนการผลิต ส่งต่อข้อมูลสู่ระบบ MES เพื่อนำไปปฏิบัติใช้ โดยใช้ระบบ Monitoring เพื่อการติดตามความคืบหน้าการผลิต

• การควบคุมคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลด้านคุณภาพสินค้าด้วยระบบ MES พร้อมทั้งใช้งานระบบ Monitoring สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

• การบำรุงรักษาเครื่องจักร ระบบ MES จะดำเนินการบันทึกข้อมูลการทำงานของเครื่องจักร และใช้ระบบ Monitoring เพื่อแจ้งเตือนเครื่องจักรเมื่อมีปัญหาหรือใกล้ถึงกำหนดการบำรุงรักษา

ประโยชน์ที่โรงงานได้รับเมื่อใช้งานระบบ ERP และ MES เพื่อการ Monitoring Track and Trace

ในยุคที่การแข่งขันด้านธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องปรับตัวพัฒนาโรงงานทั่วไปให้กลายเป็น Smart Industry เพื่อดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้งานระบบ ERP และ MES เพื่อการ Monitoring Track and Trace คือกลยุทธ์ที่ช่วยเสริมสร้างและบริหารจัดการกระบวนการผลิตในหลากหลายด้าน เช่น

• ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ผู้ประกอบการสามารถการวางแผนการผลิตได้อย่างแม่นยำ ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการผลิตสินค้า

• ลดเวลาในการบริหาร ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และกำหนดทิศทางธุรกิจได้อย่างเหมาะสมมากที่สุด

• ตรวจสอบสภาพเครื่องจักร ทำให้ผู้เชี่ยวชาญสามารถตรวจสอบสาเหตุของปัญหาและ บำรุงรักษาเครื่องจักรเชิงป้องกัน ลดความเสียหายจากการซ่อมแซมเครื่องจักร

• แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด สามารถระบุแหล่งที่มาของปัญหาได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้การตัดสินใจทำได้ง่ายมากขึ้น

• ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ช่วยให้บุคลากรสามารถสอบคุณภาพและความปลอดภัยของข้อมูลและรายละเอียดสินค้า

ตัวอย่างการใช้งานระบบ ERP และ MES เพื่อ Monitoring System

การนำระบบ ERP และ MES เข้ามาใช้ช่วยพัฒนากระบวนการผลิตของโรงงาน ย่อมช่วยเพิ่มคุณภาพการผลิตและลดข้อผิดพลาดในกระบวนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งท่านสามารถเห็นได้จากใช้งานระบบปฏิบัติการของเรา ในบริษัทหลายแห่ง เช่น

• KUANG CHUAN DAIRY CO., LTD. (KC) บริษัทที่มีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมใช้ระบบปฏิบัติการเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตและการติดตามคุณภาพสินค้า ทำให้ข้อมูลสูตรการผลิตมีความถูกต้องแม่นยำ ช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อสินค้า

• VIVO ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใช้งานระบบ ERP เพื่อการบริหารจัดการและตรวจติดตามสถานะของสินค้า ด้วยฟังก์ชันการจัดการคลังสินค้าที่สมบูรณ์ครบครัน สามารถส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพให้กับผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ

• Sunny Hills บริษัทผลิตขนมปังไส้สับปะรด นำระบบ ERP และ MES ติดตั้งในการทำงานด้านการจัดการ 5 ส่วน ได้แก่ การจัดซื้อ การจัดขาย การจัดการคลังสินค้า การจัดการบัญชี และการจัดการการเงิน เพื่อควบคุมและตรวจสอบกระบวนการผลิตภายในโรงงาน

บทสรุป การปรับใช้ระบบ ERP และ MES เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

ERP และ MES คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญช่วยพัฒนาระบบ Monitoring Track and Trace ในโรงงานอุตสาหกรรม เพราะท่านสามารถนำระบบปฏิบัติการเหล่านี้เข้ามายกระดับความสามารถในการติดตามและควบคุมกระบวนการผลิต ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ โดยเฉพาะการติดตามวัตถุดิบ การผลิต และการจัดส่งสินค้า เพื่อยกระดับมาตรฐานโรงงานของท่านให้มีคุณภาพมากที่สุด

ARES เราคือผู้ให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งซอฟต์แวร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อการผลิตสำหรับธุรกิจขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ ที่ต้องการระบบจัดการการผลิตครอบคลุม ดูแลได้ทุกภาคส่วน ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 40 ปีในหลากหลายธุรกิจ ที่พร้อมช่วยพาธุรกิจของท่านให้ไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ

ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง 
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th