ลด Carbon footprint สู่การ Decarbonization อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ MES

 

Carbon Footprint หนึ่งในความท้าทายใหญ่ที่หลายประเทศทั่วโลกจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหา ไม่เพียงแค่การใช้กลยุทธ์และวิธีการทางกฎหมายมากมาย เพื่อสนับสุนนการ ลดคาร์บอน (Decarbonization) แต่ยังรวมถึงการสร้างความตระหนักและความรับผิดชอบในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นผู้ที่ก่อให้เกิดมลพิษจำนวนมาก ดังนั้นในฐานะผู้ประกอบการ การควบคุมและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรม จึงเป็นหัวใจสำคัญที่นักธุรกิจควรให้ความสำคัญมากที่สุด

ปัจจุบันประเทศไทยได้ออกกฎหมายและนโยบายที่สนับสนุนการ Decarbonization โดยมีจุดประสงค์หลัก 3 ส่วน ได้แก่ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรลุเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และลดการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

MES (Manufacturing Execution System) หนึ่งในเครื่องมือที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการลดคาร์บอนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเข้ามาช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในอุตสาหกรรมการผลิต ควบคู่ไปกับการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) สู่สภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีส่วนช่วยสำคัญในการสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันทางธุรกิจในยุคนี้

Decarbonization กับโรงงานอตสาหกรรม

ทำความรู้จัก Decarbonization คืออะไร ?

Decarbonization หรือกระบวนการลดระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงหินถ่าน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ทำให้เกิดเป็นมลพิษจำนวนมากในอากาศ และส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ซึ่ง Decarbonization คือกระบวนการลดมลพิษเหล่านี้ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Automation) ให้เข้ามาช่วยยกระดับการผลิตและเปลี่ยนโรงงานอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่การเป็น Smart Industry

โดยเป้าหมายสำคัญของกระบวนการ Decarbonization ที่ผู้ประกอบการต้องตั้งเป้าหมายคือ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และป้องกันการเพิ่มขึ้นอุณหภูมิของโลกเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เมื่อเปรียบเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรมการผลิตนั่นเอง

ความสำคัญของการลด Carbon Footprint

Carbon Footprint คือปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การคมนาคม หรือสาเหตุใหญ่อย่าง อุตสาหกรรมการผลิต ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายสิบปี ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถดำเนินการประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนี้ได้แล้วผ่านโปรแกรมคำนวณต่างๆ 

การลด Carbon Footprint หรือ Decarbonization จึงกลายเป็นกระบวนการที่ผู้ประกอบการต้องตระหนักและปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสภาวะโลกร้อน หรือ Global Warming ทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ผลกระทบต่อสุขภาพ ความเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจที่ยั่งยืน

การใช้งานระบบ MES เพื่อกระบวนการ Decarbonization

MES system (Manufacturing Execution System) ระบบปฏิบัติการที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในกระบวนการ Decarbonization โดยทำหน้าที่บริหารจัดการและตรวจสอบกระบวนการผลิตในโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง และนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอุตสาหกรรมการผลิตอย่างเหมาะสม ซึ่งแบ่งเป็นการทำงาน 4 ส่วน ได้แก่

  • การติดตามการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ ในทุกขั้นตอนการผลิตสินค้า และเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นภาพรวมและตัดสินใจดำเนินการได้อย่างเหมาะสม

  • การรายงานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก นำเสนอและวิเคราะห์ข้อมูลบน MES เพื่อค้นหาจุดที่สิ้นเปลืองพลังงานมากที่สุด และทำให้ผู้ประกอบการตระหนักและปรับปรุงการใช้พลังงานสิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต

  • การวิเคราะห์เครื่องจักร ผ่าน ระบบ MES เพื่อสามารถตรวจสอบการทำงาน ระบุการใช้พลังงานที่มากเกินความจำเป็น ทำนายปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มอายุการใช้งานเครื่องจักร ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานที่เกิดจากปัญหาต่าง ๆ ในกระบวนการผลิต

  • การประเมินประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบ เพื่อลดของเสียในกระบวนการผลิต ซึ่งนำไปสู่การลดการสะสมของขยะจำนวนมาก และช่วยลดการใช้งานทรัพยากรอื่น ๆ เช่น น้ำ วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์ ผ่านการวางแผนการผลิตที่แม่นยำ

ลด Carbon Footprint

ประโยชน์ของการลด Carbon Footprint ด้วยระบบ MES

การใช้งานระบบ MES เพื่อสร้างประสิทธิภาพในกระบวนการ Decarbonization คือกลยุทธ์ที่ทำให้โรงงานอุตสาหกรรมสามารถลดของเสียจากการใช้พลังงาน และเพิ่มความยั่งยืนในธุรกิจ ซึ่งมีผลดีต่อหลายภาคส่วน เช่น

ประโยชน์ต่อโลก

ระบบปฏิบัติการ MES มีส่วนช่วยให้ผู้ผลิตสามารถปรับปรุงการใช้พลังงานในโรงงานได้อย่างเหมาะสม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมการผลิต พร้อมบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งนำไปสู่การชะลอภาวะโลกร้อน และการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ

ประโยชน์ต่อองค์กร

การพัฒนา ระบบโรงงาน ด้วยระบบ MES ทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าลดน้อยลงจากการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการวางแผนและปรับปรุงกระบวนการผลิต ทำให้บุคลากรในโรงงานสามารถจัดสรรวัตถุดิบและเครื่องจักรได้อย่างเหมาะสม และยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมและกระบวนการ Decarbonization ให้กับองค์กร ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดยุคปัจจุบัน

ประโยชน์ต่อสังคม

เมื่อโรงงานสามารถพัฒนากระบวนการ Decarbonization อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายที่ควรเป็น ย่อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ทั้งในด้านสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิต และสุขภาพของพวกเขาได้อย่างแน่นอน และอาจกลายเป็นแรงจูงใจสำคัญที่ทำให้สังคมมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมร่วมกันในระยะยาว

ประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

ระบบ MES คือเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมุ่งเน้นการลดการใช้งานพลังงานสิ้นเปลืองในกระบวนการผลิตที่เป็นสาเหตุสำคัญของก๊าซเรือนกระจกและสภาวะโลกร้อน โดยระบบปฏิบัติการ MES จะช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิตที่สะอาด เพื่อเปลี่ยนแปลงให้สภาพแวดล้อมมีระบบนิเวศที่ดี ผ่านการลดมลพิษในอากาศ น้ำ และดิน

การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

บทสรุป การประยุกต์ใช้ระบบ MES ในอุตสาหกรรมการผลิต

การใช้งานระบบ MES ในอุตสาหกรรมการผลิตเป็นเครื่องมือสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเปลี่ยนแปลงโลกด้วยกระบวนการ Decarbonization เพราะ MES คือระบบปฏิบัติการที่เข้ามาช่วยบริหารจัดการวัตถุดิบ จัดเก็บข้อมูล และควบคุมกระบวนการผลิตแบบเรียลไทม์ ซึ่งนำไปสู่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ARES เราคือผู้ให้บริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ Argo ERP, Argo MES และ ciMES ที่พร้อมให้คำปรึกษา ติดตั้ง และปรับแต่งระบบปฏิบัติการเพื่อตอบสนองความต้องการของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของท่านได้ เราเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้กระบวนการผลิตสามารถดำเนินงานได้อย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และผลักดันธุรกิจของท่านให้เติบโตอย่างยั่งยืน

ติดต่อเรา Ares

ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us

หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง 
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th