Smart Factory คืออะไร ทำไมจึงสำคัญกับโรงงานยุคปัจจุบัน
การแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นทุกเมื่อ พร้อมการพัฒนาเครื่องมือต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผู้ประกอบการหลายท่านจึงหันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยีโรงงานทุก ๆ ด้าน ไม่เว้นแม้แต่ขั้นตอนและกระบวนการผลิตสินค้าที่ช่วยให้ทำงานเป็นระบบมากขึ้นจนกลายเป็น Smart Factory หรือ โรงงานอัจฉริยะ ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในอุตสาหกรรม
หลายท่านอ่านมาถึงตรงนี้ อาจมีข้อสงสัยว่า Smart Factory คืออะไร มีความสำคัญกับโรงงานในยุคปัจจุบันอย่างไร บทความนี้เราจึงขอมาอธิบาย ทั้งความหมาย ข้อได้เปรียบ และการพัฒนาโรงงานให้ก้าวเข้าสู่ Smart Factory อย่างเต็มรูปแบบดังนี้
ความหมายของ Smart Factory
Smart Factory หรือโรงงานอัจฉริยะ คืออุตสาหกรรมการผลิตที่นำเทคโนโลยีเครื่องจักร ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ IoT (Internet of Things) เข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตบางส่วนแทนมนุษย์ และควบคุมขั้นตอนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณที่เหมาะสม เช่น การควบคุมการผลิตระยะไกล การสร้างระบบการทำงานของโรงงาน หรือการประมวลข้อมูลเพื่อนำมาประยุกต์ต่อยอดในอนาคต เป็นต้น
ความแตกต่างระหว่างโรงงานทั่วไปและ Smart Factory
เมื่อเปรียบกับโรงงานทั่วไป Smart Factory มีข้อแตกต่างที่ช่วยพัฒนาระบบการทำงานภายในโรงงานให้เป็นไปอย่างราบรื่นได้ ดังนี้
ความแตกต่าง | โรงงานทั่วไป | Smart Factory |
จำนวนแรงงาน | ใช้แรงงานจำนวนมากในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน | ทดแทนแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตด้วยเครื่องจักร ทำให้ใช้แรงงานในกระบวนการต่างๆ น้อยลงหรือไม่ใช้คนงานเลย |
ความคุ้มค่า | เสียต้นทุนและค่าใช้จ่ายจำนวนมากไปกับแรงงานในโรงงาน | เครื่องจักรมีความทนทานสูง นับเป็นการลงทุนระยะยาวที่ได้ผลตอบแทนดี |
ระยะเวลาการผลิต | ใช้ระยะเวลาการผลิตนานกว่า เพราะมนุษย์จำเป็นต้องมีช่วงเวลาพัก | ช่วยลดระยะเวลาผลิต เนื่องจากเครื่องจักรสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ด้วยประสิทธิภาพคงที่ |
การรวบรวมข้อมูล | ผู้ประกอบการจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดและใช้เวลานาน | สามารถรวบรวมข้อมูลในระบบมาแสดงผล และคำนวณเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจได้ง่าย |
ความยืดหยุ่น | การปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตสินค้าสามารถทำได้ยากและต้องใช้ระยะเวลานาน | สามารถปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงได้ |
ความปลอดภัย | มีโอกาสเกิดอันตรายกับแรงงานภายในโรงงาน เนื่องจากคนต้องทำงานร่วมกับเครื่องจักรโดยตรง | Smart Industry มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้แรงงานเพื่อควบคุมหุ่นยนต์ เครื่องจักร และระบบอัตโนมัติ ช่วยลดอุบัติเหตุระหว่างการทำงาน |
ความแม่นยำ | อาจเกิดความผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ ซึ่งมีผลจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น สุขภาพร่างกายและจิตใจ | เครื่องจักรมีความแม่นยำสูง ทำให้ช่วยลดโอกาสผิดพลาดในกระบวนการผลิตได้ดี |
องค์ประกอบของ Smart Factory
ความแตกต่างของ Smart Factory ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนคือ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งเครื่องมือต่าง ๆ อาจมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ประกอบการแต่ละท่าน โดยสามารถแบ่งองค์ประกอบหลักของ Smart Factory ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่
-
Prediction คือการประเมินการผลิต คาดการณ์ความต้องการของลูกค้า วางแผนบำรุงรักษาเครื่องจักร และจัดการสินค้าคงคลัง จากข้อมูลที่มี เพื่อคำนวณสถิติผ่านเครื่องจักรที่ทำงานอย่างแม่นยำ เช่น ระบบ MES MRP หรือ ERP
-
Planning & Scheduling คือการวางแผนการผลิต และกำหนดระยะเวลาการทำงานด้วยข้อมูลที่ได้รับจากระบบ Smart Factory เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าในปริมาณที่เพียงพอเมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการของลูกค้า ช่วยเพิ่มความแม่นยำในกระบวนต่าง ๆ ซึ่งมีผลดีต่อระยะเวลาการผลิตและวัตถุดิบเหลือทิ้ง
-
Analytic คือการวิเคราะห์กระบวนการผลิต เพื่อคำนวณต้นทุน เครื่องจักร แรงงาน จุดแข็ง จุดอ่อน และนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิต
-
Execution คือการดำเนินการผลิตด้วยระบบโรงงานสมัยใหม่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องจักรและระบบการทำงานต่าง ๆ ที่ช่วยลดจำนวนแรงงานที่ใช้ในกระบวนการผลิต
หนทางก้าวสู่ Smart Factory เพื่อการทำงานอย่างเป็นระบบ
ถึงแม้ว่า การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory อาจฟังดูเหมือนเป็นความท้าทายใหญ่ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ แต่ถ้าหากว่าท่านศึกษาข้อมูลและตัดสินใจปรับโฉมโรงงานอย่างรอบคอบ การมีโรงงานอัจฉริยะ Smart Factory อาจไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถอย่างแน่นอน
นอกเหนือจากการวางแผนการผลิตและการเตรียมพร้อมพนักงานในโรงงานแล้ว การสร้างระบบการทำงานภายในโรงงานคือสิ่งจำเป็นไม่น้อยที่จะช่วยผลักดันให้โรงงานสามารถดำเนินการผลิตอย่างมีคุณภาพภายใต้ระยะเวลาที่เหมาะสม ซึ่งระบบ MES คือหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้การบันทึกข้อมูลและติดตามการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการนำระบบดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้ ทั้งการจัดการข้อมูลแบบเรียลไทม์ ติดตามการสั่งซื้อ จัดการแรงงานในโรงงาน ควบคุมการใช้งานเครื่องจักร การตรวจสอบข้อมูล และการบันทึกข้อมูลต่าง ๆ เช่น
KINSUS INTERCONNECT TECHNOLOGY ผู้นำการผลิตบอร์ดด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน R&D ต้องการพัฒนาระบบรูปแบบใหม่เพื่อรองรับการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ระบบ ciMES จึงเข้ามามีส่วนช่วยพัฒนากระบวนการกำหนดข้อมูล ออกแบบสินค้าที่มีมาตรฐาน และจัดการข้อมูลต่าง ๆ ภายในโรงงานได้อย่างแม่นยำ เพื่อลดข้อผิดพลาดในกระบวนการผลิตทุก ๆ ขั้นตอน
หากท่านตัดสินใจเปลี่ยนแปลงโรงงานให้เข้าสู่ Smart Factory อย่างเต็มรูปแบบ ARES คือผู้เชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ที่จะให้คำปรึกษาและช่วยคุณสามารถเปลี่ยนโรงงานให้กลายเป็น Smart Factory ได้อย่างง่ายดายท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ciMES
ข้อสรุปเกี่ยวกับ Smart Factory
Smart Factory คือระบบการทำงานของโรงงานอัจฉริยะอันสำคัญในยุคปัจจุบัน ที่นำเทคโนโลยีเครื่องจักรหลากหลายรูปแบบเข้ามาช่วยให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพ ภายใต้งบประมาณ และต้นทุนที่ลดลง เพื่อให้ท่านสามารถพัฒนาศักยภาพสินค้าและบริการในตลาดการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นได้
ARES เราคือบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านระบบซอฟต์แวร์ ที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการติดตั้งระบบซอฟต์แวร์ Argo ERP และ CiMES ในโรงงานหลากหลายรูปแบบ ด้วยผู้มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกท่าน
ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th