ทำไมบริษัทใหญ่ถึงเปลี่ยนมาใช้ ERP แทนโปรแกรมบัญชีทั่วไป?
ในยุคที่ธุรกิจต้องการความแม่นยำและความรวดเร็วในการจัดการข้อมูลทางการเงิน การเลือกใช้โปรแกรมด้านบัญชีที่เหมาะสมกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จขององค์กร และเมื่อองค์กรเติบโตขึ้น โปรแกรมบัญชีรูปแบบเดิม ๆ อาจเป็นสาเหตุของปัญหาต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบวงกว้างในการดำเนินธุรกิจ
การใช้งาน ระบบ ERP เพื่อการบัญชี จึงเป็นเครื่องมือที่ช่วยแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการด้านการเงินและบัญชีแบบเดิม ควบคู่กับการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานด้วยโปรแกรมการเงินและการบัญชี ที่ต้องการความรวดเร็วและแม่นยำ

ทำความเข้าใจ โปรแกรมบัญชีเดิม
ถึงแม้ว่า โปรแกรมบัญชีแบบเดิมจะสามารถตอบโจทย์การทำงานพื้นฐาน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดหลายประการซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร เช่น
| หัวข้อ | ข้อดีของโปรแกรมบัญชีเดิม | ข้อเสียของโปรแกรมบัญชีเดิม |
| การทำงานของระบบ | ใช้งานง่าย คุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการ | ทำงานแยกส่วน ข้อมูลไม่เชื่อมต่อกัน อาจเกิดความซ้ำซ้อนได้ง่าย |
| การจัดการข้อมูลทางการเงิน | มีระบบบันทึกบัญชีพื้นฐาน | ข้อมูลไม่ Real-time ทำให้การตัดสินใจด้านกลยุทธ์ล่าช้า |
| การรายงานทางการเงิน | มีฟังก์ชันการสร้างรายงานระดับเบื้องต้น | รายงานแค่ข้อมูลบัญชีเท่านั้น ไม่รวมภาคธุรกิจอื่น |
| ความยืดหยุ่นของระบบ | ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงมาก | ปรับขยายระบบได้ยาก จึงไม่ตอบโจทย์เมื่อธุรกิจเติบโต |
นักธุรกิจจึงจำเป็นต้องลงทุนติดตั้งระบบอื่น ๆ เพื่อการใช้งานควบคู่กัน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความซับซ้อนในการทำงานและต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างไม่จำเป็น
โปรแกรมบัญชีกับระบบ ERP ต่างกันอย่างไร? พร้อมเปรียบเทียบ
โปรแกรมบัญชี คือซอฟต์แวร์สำเร็จรูปที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการงานด้านบัญชีขั้นพื้นฐาน เช่น การออกใบกำกับภาษี การบันทึกบัญชีรายรับรายจ่าย การคำนวณภาษี และการจัดทำรายงานทางการเงิน โดยมีขอบเขตขนาดเล็ก ที่ครอบคลุมเฉพาะงานด้านบัญชี
ในทางกลับกัน ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) คือซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการทั้งองค์กรแบบบูรณาการ โดยมีโมดูลบัญชีเป็นหนึ่งในหลายฟังก์ชันที่เชื่อมโยงกัน อาทิการจัดซื้อ การจัดการสินค้าคงคลัง การวางแผนการผลิต การขายและการตลาด ผ่านการเชื่อมโยงข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อให้บุคลากรสามารถทำงานร่วมกันได้ด้วยแพลตฟอร์มเดียว
ตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง โปรแกรมบัญชีกับระบบ ERP
| หัวข้อ | โปรแกรมบัญชี | ระบบ ERP |
| ขอบเขตการใช้งาน | มุ่งเน้นการจัดการงานบัญชีเท่านั้น | ครอบคลุมการทำงานทุกด้านของธุรกิจ |
| การบูรณาการข้อมูล | ข้อมูลถูกจัดเก็บแยกจากระบบอื่น ทำให้เข้าถึงได้ยากกว่า | เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างแผนกต่าง ๆ เข้าด้วยกัน |
| การวิเคราะห์และการรายงาน | สามารถรายงานข้อมูลได้เพียงด้านบัญชีและการเงิน | รายงานข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์จากทุกภาคส่วน |
| การรองรับการเติบโตของธุรกิจ | เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กซึ่งมีข้อมูลและการทำงานไม่ซับซ้อน | รองรับการขยายตัวขององค์กรในทุกมิติ สามารถจัดการความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้น |
| ต้นทุนการติดตั้ง | ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งไม่สูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีงบประมาณจำกัด | โปรแกรม ERP มีราคา เริ่มต้นสูงกว่า แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจในระยะยาว |
| ความยืดหยุ่นในการปรับแต่ง | ฟังก์ชันการทำงานสำเร็จรูป สามารถปรับแต่งได้เพียงเล็กน้อย | ปรับแต่งได้ตามความต้องการของธุรกิจแต่ละแห่ง |
| การสนับสนุนการตัดสินใจ | ช่วยบริหารจัดการงานประจำวันและรายงานด้านการเงินและบัญชี | ผู้บริหารมองเห็นภาพรวมของธุรกิจ และตัดสินใจทางกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำ |

สนใจยกระดับองค์กรของท่านด้วยระบบ Argo ERP
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://aresth.co.th/products
5 เหตุผลควรเปลี่ยนโปรแกรมบัญชีมาสู่ระบบ ERP
การเปลี่ยนจากโปรแกรมบัญชีสู่การใช้งานระบบ ERP ทำให้ธุรกิจได้รับผลประโยชน์อย่างคุ้มค่าเมื่อองค์กรต้องการการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเมื่อทำงานใน โปรแกรม Excel และโปรแกรมบัญชีแบบดั้งเดิม
-
บูรณาการข้อมูลทั้งองค์กร และรายงานผลแบบ Real-time
ระบบ ERP คือซอฟต์แวร์ที่บูรณาการเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) เพื่อการเชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนกลงในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้ผู้บริหารและบุคลากรสามารถติดตามกระบวนการทำงานและสถานะทางการเงินของธุรกิจแบบ Real-time ได้จากระบบ เช่น
-
คำนวณต้นทุนตาม Fifo หรือ Moving Average
-
การคาดการณ์งบประมาณ
-
การวิเคราะห์กระแสต้นทุน
-
ครอบคลุมงานบัญชีทั้ง GL, AP, AR, Multi-Company, Multi-Currency หรือ Multi-Language
-
รองรับรายงานด้านภาษีต่างๆ เช่น หัก ณ ที่จ่าย, ภ.พ.ม ภ.ง.ด ต่างๆ
-
รองรับการตรวจสอบและการควบคุมภายในที่เข้มงวด
-
ยกระดับกระบวนการด้านบัญชีและการเงิน
ERP Solutions มีบทบาทสำคัญที่ทำให้กระบวนการบัญชีดำเนินการอย่างอัตโนมัติ ตั้งแต่การบันทึกธุรกรรมทางการเงิน การจัดทำรายงานสรุป การวิเคราะห์สถานะบัญชี การคำนวณภาษี และการปิดบัญชี ทั้งหมดนี้คือกระบวนการที่ช่วยลดข้อผิดพลาดซึ่งอาจเกิดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ และประหยัดเวลาการทำงานของบุคลากร
-
ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
เพราะกระบวนการผลิตในธุรกิจมีความซับซ้อน ระบบ ERP จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือการจัดการข้อมูลจำนวนมากที่ต้องใช้การประมวลผลที่แม่นยำ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน (Improve Performance) ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกทุกภาคส่วน การเข้าถึงข้อมูลทางการเงินแบบเรียลไทม์ การมองเห็นภาพรวมด้านบัญชีขององค์กร และการแสดงข้อมูลที่บ่งบอกถึงจุดแข็งและจุดด้อยของธุรกิจ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางการแข่งขันในตลาดได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น

ปรึกษาจากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบ ERP ติดต่อเราได้ที่ https://aresth.co.th/contactus
-
การบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น
ERP ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์ต้นทุน บริหารจัดการต้นทุน และคำนวณ ROI (Return on Investment) ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนและเรียลไทม์
นอกจากนี้ ERP ยังเข้ามามีส่วนช่วยด้านการลดต้นทุนในโรงงาน ผ่านการวางแผนการผลิต ปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการ ลดของเสีย ใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม และการจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ
-
รองรับการขยายตัวในธุรกิจ
ระบบ ERP ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอย่างรอบด้านและยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น การทำงานที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำ การเปิดบริษัทลูก การเปิดสาขาใหม่ หรือการขยายสาขาไปยังประเทศอื่น โดยไม่จำเป็นต้องปรับปรุงโมดูลการทำงานขึ้นพื้นฐานมากนัก
รวมไปถึงยังเข้ามามีส่วนสำคัญในการจัดการกับลูกค้าและบัญชีใหม่ ได้ในช่วงเวลาที่ธุรกิจของท่านเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โมดูลการจัดการบัญชีในระบบ Argo ERP จาก ARES

โมดูลจัดการบัญชี (Accounting Module) คือหนึ่งในโมดูลของระบบ Argo ERP จาก ARES ที่ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการจัดการข้อมูลทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ และเป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงข้อมูลจากทุกแผนกเข้าด้วยกัน โดยครอบคลุมกระบวนการบัญชีที่สำคัญ ดังนี้
-
รวบรวมข้อมูลธุรกรรมรายวัน รายเดือน รายปี ต้นทุนสินค้าของธุรกิจ และรายการธุรกรรมอื่น ๆ
-
ลงบัญชี สรุปรายได้ ค่าใช้จ่าย และปิดบัญชีตามมาตรฐาน TFRS ของประเทศไทย
-
บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และค่าใช้จ่ายของธุรกิจ
-
จัดการรายการเงินสดและธนาคารในองค์กร
-
จัดการบัญชีลูกหนี้และลูกหนี้ค้างชำระ
-
จัดการเงินต้นและดอกเบี้ย
-
บันทึกสินทรัพย์และหนี้สิน
-
จัดการกับรายงานการเงิน
-
จัดการกับภาษี
และยังมีฟังก์ชันพิเศษอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบัญชีและการเงิน เช่น
-
แจ้งเตือนเมื่อมีการลงบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่ครบ ผิดประเภท หรือไม่ตรงตามข้อกำหนด
-
เครื่องมือรายงานทางการเงินตามมาตรฐาน TFRS (Thai Financial Reporting Standards)
-
เชื่อมต่อระบบ BI เพื่อนำไปประมวลผลและวิเคราะห์กำไรขาดทุนบน Dashboard
-
สร้างและปรับฟอร์มเอกสารตามโครงสร้างองค์กรหรือตามมาตรฐานของ Argo ERP
-
Export รายงานและข้อมูลต่าง ๆ ออกจากระบบได้โดยตรง
-
ปิดบัญชีอัตโนมัติ
-
สามารถอนุมัติผ่านลายเซ็นดิจิทัลได้
-
เชื่อมต่อระบบ E-Tax Invoice และ Receipt เพื่อส่งภาษีให้กรมสรรพากรอัตโนมัติ
-
คำนวณภาษีอัตโนมัติตามมาตรฐานของกรมสรรพากร



ก้าวเข้าสู่การทำงานยุคดิจิทัล ด้วยโซลูชันของเรา คลิก
บทสรุป Argo ERP ซอฟต์แวร์ด้านบัญชีเพื่อการบริหารธุรกิจที่เหนือกว่า
โปรแกรมบัญชีรูปแบบเดิมอาจเต็มไปด้วยข้อจำกัดในการทำงานหลายด้าน เช่น ขาดการเชื่อมโยงกับแผนกอื่น การอัปเดตข้อมูลที่ไม่ Real-time การบันทึกข้อมูลที่อาจเกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย หรือการเข้าถึงข้อมูลที่จำกัด การใช้งานโปรแกรม Argo ERP ที่บูรณาการข้อมูลทั้งองค์กรและยกระดับกระบวนการทุกภาคส่วน จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยบริหารจัดการข้อมูลบัญชี ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และรองรับงการขยายตัวของธุรกิจ
บริษัท ARES ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบโรงงานและธุรกิจ เราพร้อมให้คำปรึกษาและติดตั้งโปรแกรม Argo ERP สำหรับธุรกิจขนาดกลางและใหญ่ เพื่อให้ท่านสามารถบริหารจัดการทรัพยากรองค์กรได้อย่างเป็นระบบ ลดการซ้ำซ้อนในการบริหารจัดการ และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในยุคที่ตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th
