BOM คืออะไร ระบบ MES มีบทบาทในการจัดการ BOM อย่างไร
ในกระบวนการผลิตสินค้าเพียงหนึ่งชิ้น การจัดสรรวัตถุดิบ และระยะเวลาการผลิต นับเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการควรวางแผนและบริหารจัดการก่อนเริ่มต้นกระบวนการผลิต ซึ่งท่านสามารถเลือกใช้เครื่องมือเพื่อคำนวณและเก็บข้อมูลสินค้าได้อย่างหลากหลาย และ Bill of Materials (BOM) คือตัวช่วยที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นในวันนี้ เราจึงอยากพาทุกท่านไปรู้จักกับความหมาย ความสำคัญ และองค์ประกอบของ BOM พร้อมแนะนำระบบปฏิบัติการที่จะช่วยยกระดับการทำงานของ BOM เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด

Bill of Materials (BOM) คืออะไร ?
Bill of Materials (BOM) หรือ บิลวัสดุ คือรายการวัสดุ สูตรการผลิต หรือ โครงสร้างสินค้า (Product Structure) 1 ชิ้น ที่ใช้แสดงข้อมูลต่าง ๆ ของสินค้า ทั้งส่วนประกอบ จำนวนวัสดุที่ใช้ ลำดับการผลิต ปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ผลิต และระยะเวลาการผลิต ที่ใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการและ วางแผนการผลิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำไมการทำ BOM จึงจำเป็นต่อธุรกิจของคุณ ?
การแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้วยรายการ BOM ย่อมส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารการผลิต และควบคุมโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งยังช่วยให้เกิดผลประโยชน์อื่น ๆ เช่น
สร้างความโปร่งใส
ระบบโรงงาน ในอดีตการบริการจัดการและการดำเนินการด้วยแรงงานมนุษย์ ทำให้กระบวนการผลิตอาจเกิดข้อผิดพลาด และมีความไม่โปร่งใสจากการทำงานของพนักงานหลายฝ่าย โดยเฉพาะการคำนวณราคาต้นทุนและเครื่องจักรที่อาจนำไปสู่ความผิดร้ายแรงที่ส่งผลต่อรายได้และกำไรของธุรกิจ
BOM คือเครื่องมือที่เข้ามาช่วยลดช่องว่างระหว่างสินค้าและที่มาของวัตถุดิบ ทั้งการบันทึกข้อมูลที่ถูกต้อง หรือการคำนวณต้นทุนอย่างแม่นยำ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บในระบบที่มีความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถค้นหาที่มาของเงินทุนและพิจารณาถึงความสมเหตุสมผลได้
ความแม่นยำในการผลิตสินค้า
การบริหารจัดการด้านกระบวนการผลิตคือหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานอย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการระบุโครงสร้างสินค้า BOM ทั้งในด้านชนิด คุณภาพ จำนวน และรายละเอียดเฉพาะอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการสั่งซื้อได้อย่างเหมาะสม ลดความเสี่ยงด้านการขาดแคลนหรือสิ้นเปลืองวัตถุดิบ ซึ่งเชื่อมโยงไปยัง การควบคุมคุณภาพสินค้า และการดำเนินการผลิตอย่างเต็มประสิทธิภาพ
จัดการสินค้าคงคลังได้ดี
BOM มีส่วนช่วยด้านการจัดการสินค้าคงคลัง เลือกสรรวัตถุดิบ ควบคุมงบประมาณ และกำหนดระยะเวลาการผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถประเมินและพัฒนากระบวนการผลิต รวมไปถึงลดปัญหาด้านการขาดแคลนวัตถุดิบสำหรับการผลิต หรือมีจำนวนมากเกินไป
การบำรุงรักษาเครื่องจักร
BOM ช่วยให้พนักงานในโรงงานสามารถติดตามประวัติการใช้งานชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) และลดระยะเวลาการซ่อมแซมเครื่องจักรผ่านการระบุชิ้นส่วนที่เสียหายได้อย่างรวดเร็ว และเพื่อให้โรงงานสามารถสั่งซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ได้อย่างทันท่วงที
รองรับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์
โรงงานสามารถปรับปรุง BOM ได้อย่างง่ายดาย หากรูปแบบสินค้าหรือออเดอร์มีการเปลี่ยนแปลง การระบุ BOM ที่ชัดเจนยังช่วยให้การออกแบบและผลิตสินค้าใหม่สามารถทำได้อย่างราบรื่น และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

8 องค์ประกอบสำคัญที่ควรมีใน BOM

เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถมองเห็นถึงข้อมูลและกระบวนการผลิตสินค้าได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น โรงงานควรบันทึกข้อมูลและรายละเอียดของชิ้นส่วนอย่างครบถ้วน โดยแบ่งเป็น 8 องค์ประกอบหลักที่สำคัญ ๆ ดังนี้
1. หมายเลขชิ้นส่วน (Part Number) หมายถึง ID หรือหมายเลขของส่วนประกอบ อ้างอิงชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากในกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน
2. ชื่อชิ้นส่วน (Part Name) หมายถึง ชื่อเรียกของส่วนประกอบ ช่วยระบุชิ้นส่วนแต่ละชิ้นอย่างชัดเจนและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกใช้วัตถุดิบ
3. รายละเอียด (Description) หมายถึง คำอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดของชิ้นส่วน ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการระบุชิ้นส่วน
4. ปริมาณ (Quantity) หมายถึง จำนวนของวัสดุและชิ้นส่วนที่จำเป็นต้องใช้เพื่อการผลิตสินค้า ช่วยให้สามารถคำนวณงบประมาณและจัดเตรียมวัตถุดิบได้เพียงพอต่อความต้องการ
5. หน่วยวัด (Unit of Measure) หมายถึง หน่วยวัดชิ้นส่วนของสินค้า แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ น้ำหนักและขนาดของชิ้นส่วน มีส่วนช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผลิตและควบคุมคุณภาพสินค้า
6. ลำดับชั้น BOM (BOM Level) หมายถึง ลำดับขั้นตอนการผลิตสินค้าโดยใช้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อให้แรงงานสามารถเข้าใจถึงกระบวนการผลิตได้ดียิ่งขึ้น แบ่งเป็น 3 ระดับ ได้แก่
-
ระดับ 0 ผลลัพธ์สุดท้ายของการผลิต โดยใช้วัสดุจากระดับ 1 และ 2 ประกอบเข้าด้วยกัน
-
ระดับ 1 ชิ้นส่วนที่ถูกผลิตขึ้นจากระดับ 2 เพื่อประกอบขึ้นเป็นชิ้นส่วนขนาดใหญ่
-
ระดับ 2 การใช้องค์ประกอบรายย่อยของสินค้าที่ยังไม่ถูกผลิตขึ้น เพื่อประกอบเป็นชิ้นส่วนขนาดกลาง
7. ราคา (Price) หมายถึง ต้นทุนของชิ้นส่วน ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถคำนวณต้นทุน ราคาวางจำหน่าย และกำไรของสินค้าได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
8. กระบวนการจัดซื้อจัดหา (Method of Procurement) หมายถึง รายละเอียดที่บ่งบอกถึงที่มาของชิ้นส่วน แบ่งเป็นการผลิตภายในโรงงานและรับซื้อจากบริษัทอื่น ๆ

การประยุกต์ใช้ระบบ MES สามารถช่วยเหลือ BOM อย่างไร
MES คือระบบปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งเพื่อยกระดับโรงงานทั่วไปให้กลายเป็น โรงงานอัจฉริยะ หรือ Smart Industry ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนการผลิต การจัดสรรวัตถุดิบ และการควบคุมกระบวนการผลิตสินค้าภายในโรงงานของท่าน
ผู้อ่านหลายท่านอาจมีข้อสงสัยว่า ระบบ MES มีส่วนช่วยด้านการจัดการวัตถุดิบด้วย BOM ได้อย่างไร ? คำตอบคือ ระบบ MES นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยบันทึก และเก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของสินค้าแบบเรียลไทม์ โดยการใช้งาน ciMES เพื่อการจัดการ BOM ครอบคลุมตั้งแต่ การบันทึกข้อมูลใบสั่งซื้อจากลูกค้า การคิดราคาสินค้า การคำนวณวัตถุดิบให้ตรงกับ BOM การบันทึกข้อมูลใบสั่งซื้อวัสดุเพิ่มเติม การตัดสินใจเลือกใช้เครื่องจักรเพื่อการผลิต ซึ่งสามารถแบ่งฟังก์ชันการทำงานเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้
-
ค้นหารายการ WIP
-
การติดตามการผลิต
-
การบริหารจัดการองค์ประกอบการผลิต
-
คำแนะนำหน้าที่งานการผลิต
-
คำแนะนำมาตรฐานการผลิต
ซึ่งหากท่านสนใจข้อมูลการติดตั้งระบบ ciMES เพื่อจัดการรายการบิลวัสดุ (BOM) รูปแบบเต็ม สามารถติดต่อเราได้ที่นี่ค่ะ

บทสรุป ใช้ BOM ในกระบวนการผลิตในโรงงาน
Bill of Materials (BOM) หรือ โครงสร้างสินค้า (Product Structure) ไม่ได้เป็นเพียงรายการวัสดุที่ถูกเขียนขึ้นเท่านั้น แต่คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญของกระบวนการผลิตสินค้าภายในโรงงาน ที่ช่วยทำให้โรงงานของท่านสามารถควบคุมมาตรฐานการผลิตสินค้าทุกชิ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน ทั้งการเลือกสรรวัตถุดิบที่เหมาะสม ลดความผิดพลาดระหว่างกระบวนการผลิต และควบคุมงบประมาณที่ใช้ เพื่อสร้างรากฐานให้กับธุรกิจในระยะยาว
ARES เราคือบริษัทที่ให้บริการติดตั้งซอฟต์แวร์ ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อการผลิต พร้อมประสบการณ์ที่ยาวนานกว่า 40 ปีในหลากหลายธุรกิจ เราให้บริการติดตั้ง MES Software Thailand เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของคุณ
บทความนี้ตรวจสอบโดย คุณ ธีรชัย รัตถิกุล (Theerachai Ruttikul) MES Consultant Ares Thailand
ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th
