ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ด้วย MES Software Thailand จาก Ares

 

ความซับซ้อนของกระบวนการผลิต ถือเป็นประเด็นที่ไม่สามารถมองข้ามได้ในโรงงานยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในแง่มุมของเครื่องมือที่มีไม่สามารถติดตามกระบวนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พบเจอปัญหาเดิม ๆ ในไลน์การผลิต ความล่าช้าในการเข้าไปแก้ไขปัญหาระหว่างการผลิต ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นแล้ว การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต คือเป้าหมายหลักของทุกโรงงาน เพื่อการแก้ไขปัญหา Pain point เหล่านี้ Ares จึงได้พัฒนา ciMES MES Software Thailand ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตในโรงงานให้เป็น One-Stop Solution ได้อย่างครบวงจรด้วยวิธีที่ทันสมัย ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างเหนือชั้น ก้าวนำคู่แข่ง

ciMES MES คืออะไร ?

ระบบ ciMES MES เป็นระบบซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิต หน้าที่หลักของระบบคือ เชื่อมต่อกับเครื่องจักรเพื่อเก็บข้อมูลและควบคุมกระบวนการผลิตทั้งหมดในโรงงาน และวิเคราะห์ผลออกมาเป็นรายงาน รวมถึงมีแดชบอร์ดให้ผู้บริหารดูได้แบบเรียลไทม์ ตั้งแต่ข้อมูลใบสั่งซื้อจากลูกค้า การวางแผนผลิต การคํานวณวัตถุดิบให้ตรงกับรายการส่วนประกอบหรือสูตรการผลิต ควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เก็บรวบรวมข้อมูล ไปจนถึงการสร้าง Production History

MODULES FUNCTIONS ของ ciMES MES Software Thailand

ciMES MES Software Thailand ออกแบบโมดูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและครอบคลุมการผลิตทุกส่วนในโรงงาน มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลายสามารถนำไปปรับใช้ตามเงื่อนไขเฉพาะต่าง ๆ ของเครื่องจักรในโรงงาน ซึ่งมีทั้งระบบแบบ Standard หรือ รูปแบบมาตรฐานสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม และแบบ Customization ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานที่ลูกค้าสามารถปรับตามความต้องการให้เข้ากับวิธีการทำงานขององค์กรได้

Production Management (WIP)

Production Management (WIP) คือโมดูลที่เป็นหัวใจหลักของการผลิตทั้งหมด และเป็นโมดูลหลักในการทำงานต่าง ๆ ของระบบ ciMES MES เพื่อจัดการและตั้งค่าระบบทั้งหมด

• ออกแบบเส้นทางการผลิต: แนะนำงานการผลิต กำหนดขั้นตอน วิธีการ และสถานีต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการผลิต ช่วยให้เห็นภาพรวมและระบุจุดคอขวดได้ง่าย

• ตั้งค่า Station การผลิต: กำหนดค่าสำหรับเครื่องจักรต่าง ๆ ควบคุมทรัพยากร และติดตามประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละสถานี รวมถึงตั้งค่าสถานะการผลิต เช่น รอ กำลังเริ่ม หรือหยุดระงับในพื้นที่การผลิตได้ทันที

• จัดการตารางเวลาการผลิต: การวางแผนที่ดีช่วยให้การจัดการระยะเวลาทำงานดีขึ้น จะรันการผลิตยาว ๆ หรือมีงานผลิตแทรกก็สามารถจัดการได้ทันท่วงที

• ฟังก์ชันการติดตามที่สามารถค้นหาข้อมูล: ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตัวอย่างเงื่อนไขการค้นหาที่สามารถใช้งานได้ เช่น ชื่อลูกค้า, หมายเลขลูกค้า, หมายเลขคำสั่งงาน, ชื่อผลิตภัณฑ์, โมเดลผลิตภัณฑ์, หมายเลขโรงงาน, โมเดลโรงงาน หรือสถานีผลิต

• รวบรวมข้อมูล EDC: เก็บรวบรวมข้อมูลค่าพารามิเตอร์จากอุปกรณ์ต่าง ๆ บนไลน์การผลิต จัดเก็บข้อมูลทางวิศวกรรมของเครื่องจักรมารวมไว้ที่เดียว เช่น อุณหภูมิ ค่าแรงดัน ค่าแรงลม

• ประวัติและรายละเอียดการผลิต: เก็บข้อมูลการผลิตอย่างละเอียด ช่วยให้ตรวจสอบย้อนกลับจากระบบได้ง่ายและรวดเร็ว

Material Management (MMS)

ระบบการจัดการสินค้าสำเร็จรูป/วัตถุดิบ (Finished Product/Raw Material Management) มีความสำคัญต่อธุรกิจผลิต ช่วยให้ติดตามสินค้าคงคลัง ตั้งแต่วัตถุดิบจนถึงสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) 

• ป้อนข้อมูลวัสดุ: บันทึกข้อมูลวัตถุดิบ (Raw Material) และสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) เพิ่มรายละเอียดตั้งแต่รับเข้าจนถึงเซทอัพ Part number ต่าง ๆ

• การใช้วัสดุ: ติดตามการใช้วัสดุในกระบวนการผลิต คำนวณและแจ้งเตือนจำนวนวัสดุคงเหลือ รวมไปถึงการคำนวณ BOM ประเมินจำนวนปริมาณการผลิตที่สามารถผลิตได้ และแจ้งเตือนเมื่อสินค้าคงคลังใกล้หมด ช่วยให้ฝ่ายจัดซื้อวางแผนการสั่งซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น และป้องกันปัญหางานผลิตที่วัสดุหมดสต็อก

• ควบคุมสินค้า FG: ควบคุมและติดตามสินค้าสำเร็จรูป (Finished Goods) ตั้งแต่เริ่มผลิตจนถึงการจัดส่ง

• การจัดการสต็อกวัสดุ: ระบบจัดการสต็อกสินค้า การโอนย้ายสินค้า การตัดสต็อก รายงานสินค้าคงคลัง สินค้าหมุนเวียนต่าง ๆ

• การเชื่อมต่อระบบคลังกับ ERP:  ระบบสามารถเชื่อมต่อกับระบบ ERP สำหรับดูภาพรวมการทำงานขององค์กร เก็บข้อมูลวัสดุครบถ้วนได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

Preventive Maintenance (PM)

โมดูลการบำรุงรักษาอุปกรณ์ (PM) คือ การตรวจสอบ ซ่อมแซม และเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ ของอุปกรณ์ เครื่องจักร และระบบต่าง ๆ เพราะสินทรัพย์เหล่านี้ล้วนเป็นทรัพย์สินที่มีค่าและสำคัญที่สุดสำหรับโรงงาน การทำงานที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพของโรงงานต้องพึ่งพาการบำรุงรักษาที่เหมาะสม เพราะการป้องกันไว้ก่อนดีกว่าต้องแก้ไขทีหลังเมื่อเครื่องจักรเกิดปัญหาไปแล้ว รวมถึงมีระบบแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อการซ่อมบำรุงที่ทันท่วงที 

• การบำรุงรักษาอุปกรณ์: เป็นกระบวนการตรวจสอบและซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องจักรรวมถึงระบบต่างๆ เป็นประจำเพื่อป้องกันความเสียหายล่วงหน้า รวมถึงยืดอายุการใช้งาน

• การซ่อมอุปกรณ์: การแก้ไขปัญหาและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุด ช่วยให้วางแผน Equipment cycle หรือ Asset cycle ได้ง่าย

• ชิ้นส่วนเครื่องจักร: ดำเนินการใช้ชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องจักรที่ถูกต้องและมีคุณภาพ 

• ตั้งค่าการบำรุงรักษา เครื่องมือ/แม่พิมพ์: ตั้งค่า PM สำหรับเครื่องมือและแม่พิมพ์ทั้งหมด และการตั้งค่าบำรุงรักษาล่วงหน้า

• จัดการอุปกรณ์: มีระบบสำหรับจัดการอุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมด ระบบนี้ติดตามตำแหน่ง เปลี่ยนเป็นสถานะการใช้งาน และประวัติทางวิศวกรรม การบำรุงรักษาของอุปกรณ์

Quality Control (QC)

โมดูลนี้มีหน้าที่สำหรับการควบคุมคุณภาพสินค้าโดยอาศัยการรวบรวมข้อมูลอย่างต่อเนื่อง วิเคราะห์ทางสถิติ และการแจ้งเตือนอัตโนมัติ ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันความสูญเสีย และรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้คงที่

• การกำหนดมาตรฐาน QC: กำหนดข้อกำหนด Quality Control ของผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมที่บริษัทหรือลูกค้ากำหนด รวมถึงตั้งค่า QC by product ได้ด้วย

• การตรวจสอบและทดสอบ: ผลิตภัณฑ์จะถูกตรวจสอบและทดสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามมาตรฐาน Quality Control ที่กำหนดก่อนทำการผลิตจริง

• การวิเคราะห์ข้อมูล: ข้อมูลจากการตรวจสอบและทดสอบจะถูกวิเคราะห์เพื่อระบุแนวโน้มและปัญหา ข้อมูลนี้อาจใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยสามารถเซตค่า SPC ให้เป็นตัวช่วยเช็คคุณภาพการผลิตแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งจะแสดงผลเป็นกราฟ X Bar, R Bar หรือ T Bar ได้

• การแก้ไขเชิงป้องกัน: เมื่อระบบพบปัญหา ระบบจะป้องกันและแจ้งเตือนก่อนปัญหาเกิด เพื่อลดความสูญเสียในการผลิต 

• การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง Quality Control: เรื่องการควบคุมคุณภาพสินค้าเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพและเหมาะสม พร้อมใช้งานตลอดเวลา และเพื่อประสิทธิภาพในการผลิตขั้นสูงสุด

• โมดูล QC สามารถ support โรงงานที่ต้องใช้ HACCP ได้

Carrier Management System (CMS)

โมดูลขนส่งระหว่างการผลิตมีบทบาทสำคัญในระบบ MES ciMES เพราะในระหว่างการผลิตมีอุปกรณ์หรือเครื่องช่วยขนส่ง เช่น รถเข็น ถาด หรือกระบะ เพื่อขนส่งการผลิตเป็น batch ไปยังสถานีต่าง ๆ ระบบจัดการขนส่งจะจัดการตามประเภทหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลา ความร้อน ความชื้น  และสามารถดึงข้อมูลอุปกรณ์การผลิตจากอุปกรณ์ขนส่งได้อีกด้วย

• จัดการการขนส่ง: การบำรุงรักษา ตลอดจนเรื่องอายุการใช้งาน จำนวนการใช้งานของเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่าง ๆ

• จัดการเงื่อนไขการขนส่ง: ช่วยให้ผู้ใช้กำหนดเงื่อนไขแต่ละครั้งได้ รวมถึงระบบสามารถแสดงสถานะได้ว่าอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ หรือต้องการการบำรุงรักษาหรือไม่

• จัดการการดำเนินงานการขนส่ง: เซทอัพการดำเนินงานได้ทั้งรูปแบบ batch หรือ component

• ประวัติการขนส่ง: เก็บข้อมูลประวัติการขนส่งทั้งหมด สามารถเช็คย้อนหลังสะดวกและง่าย

Alarm Management (ALM)

ระบบแจ้งเตือนมีบทบาทสำคัญอย่างมากในระบบการผลิต ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาหรือเหตุการณ์ที่อาจส่งผลต่อการผลิตทันเวลา อีกทั้งยังช่วยป้องกัน downtime ที่จะเกิดขึ้นได้ 

• แจ้งเตือนหลากหลายช่องทาง: ระบบสามารถส่งการแจ้งเตือนผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น อีเมล ไลน์ ข้อความ เสียงเตือน หรือหน้าจอแสดงผล 

• แจ้งเตือนทันที: ระบบส่งการแจ้งเตือนทันทีที่ตรวจพบปัญหา ช่วยให้ผู้ใช้ดำเนินการแก้ไขได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด

• การตั้งค่าการตอบกลับ: ระบบสามารถเซตค่าความสำคัญของปัญหาที่พบได้ และจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตอบกลับหลังจากได้รับการแจ้งเตือนต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าปัญหาที่พบได้รับการแก้ไขแล้ว

Label Management (LMS)

โมดูลการจัดการฉลากในระบบ ciMES MES สามารถพิมพ์ได้ทั้งฉลากแบบกำหนดเองได้ ฉลากรูปแบบมาตรฐาน รวมถึงรองรับฉลากสำหรับตลาดส่งออกด้วย เพื่อให้สินค้าส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก ส่งผลให้ประหยัดเวลาในการนับสต๊อก เพียงแค่เปลี่ยนมาสแกนบาร์โค้ดทำให้พนักงานทำงานสะดวกและรวดเร็วขึ้น

Kanban Dashboard

ระบบ ciMES มีโมดูลแดชบอร์ดแยกชื่อว่า EKS หรือ Electronic Kanban System เอาไว้ดูรายงานภาพรวมการผลิตแบบ Real-time และลูกค้ายังสามารถออกแบบหน้าจอรายงานตัวเองได้อีกด้วยว่าต้องการเห็นข้อมูลแบบใดบ้างบนจอ เช่น เครื่องจักร สถานี เส้นทางการผลิต และกลุ่มงานผลิต (Production Batch) และอีกมากมาย ช่วยให้เห็นกระบวนการผลิตทั้งหมดแบบ Real-Time 

ในโรงงานอุตสาหกรรมยุคใหม่ อุปกรณ์ พนักงาน และเครื่องจักรต่าง ๆ จะทำงานร่วมกันได้อย่างสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต้องอาศัยโมดูลข้างต้นเหล่านี้ ช่วยให้เกิดการประสานงาน การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการควบคุมการผลิตให้ราบรื่น 

ประโยชน์ที่จะได้รับจาก ciMES MES Software Thailand

ด้านเครื่องจักร

• ciMES MES สามารถควบคุมตั้งแต่ข้อมูลใบสั่งซื้อจากลูกค้า การวางแผนผลิต การคำนวณวัตถุดิบ ไปจนถึงการสร้าง Production History

• จัดการอุปกรณ์และเครื่องจักรทั้งหมด รวบรวมและรายงานผลสถานะการใช้งานของเครื่องจักร และประวัติทางวิศวกรรม การบำรุงรักษาของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียวกัน ง่ายต่อการ Track and Trace ข้อมูลย้อนหลัง

• มีระบบแจ้งเตือนเพื่อตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ลดอัตราการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ล่วงหน้า

ด้านบุคลากร พนักงาน

• พนักงานสามารถจัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ด้วยระบบแจ้งเตือนแบบ Real-time

• ทำงานได้อย่างไม่จำกัดพื้นที่และเวลา เพราะใช้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟน เป็นต้น สอบถามหรือส่งมอบงานได้อย่างเรียลไทม์

• ดู KPI ของพนักงาน กระบวนการผลิต และคำนวณต้นทุนด้านแรงงานได้อย่างแม่นยำในเวลาเดียวกัน

ด้านการจัดการและการตัดสินใจ

• ช่วยจัดการและวางแผนจัดสรรวัสดุ ทรัพยากรขององค์กรให้มีประสิทธิภาพและได้ประโยชน์สูงสุด รวมถึงตรวจเช็คข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ย้อนหลังของผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย

• เมื่อระบบเก็บรวบรวมข้อมูลการผลิตเสร็จสิ้น จะส่งต่อข้อมูลทั้งหมดไปที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ เช่น ฝ่ายจัดซื้อ-จัดหา ฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายบัญชี เพื่อประสานงานกันได้ดียิ่งขึ้น ลดการทำงานซ้ำซ้อนและล่าช้า

• ช่วยในการตัดสินใจ ระบบรายงานผลและให้ข้อมูลเชิงลึกตลอดทั้งกระบวนการผลิต เช่น สถานะ WIP การใช้งาน สถานะวัสดุ การบำรุงรักษาอุปกรณ์ แก่ผู้บริหารเพื่อช่วยในการตัดสินใจปรับปรุงกระบวนการผลิตต่อไป

เรียกได้ว่า ciMES MES เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในยุคปัจจุบันนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ทำให้ทุก ๆ ฝ่ายในโรงงาน รวมถึงซัพพลายเออร์หรือคู่ค้าอื่น ๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อของ ciMES MES โมดูลต่าง ๆ ที่ควบคุมกระบวนการผลิตที่ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนการผลิตไปตลอดจนการบำรุงรักษาเครื่องจักร ที่สำคัญช่วยจัดการเพื่อการส่งมอบงานไปยังลูกค้าได้ตามเป้าหมาย 

อย่ารอช้า ปลดล็อกศักยภาพการผลิต ลดต้นทุน ได้ผลผลิตเพิ่ม ก้าวสู่ความสำเร็จที่ยิ่งเหนือกว่าด้วย ciMES MES เรายินดีที่จะให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจท่าน 

ติดต่อเรา
คุณสามารถติดต่อเราเพื่อดู DEMO ได้ที่ Contact Us
หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ เพิ่มเติมได้ตามช่องทางด้านล่าง 
โทร 0633253640 หรือ 02-6863000 ต่อ 3042
Email: support@aresth.co.th